พิพิธภัณฑ์ที่มีการจัดแสดงร่างของซีอุย เสื้อผ้า เครื่องแต่งกายของนวลฉวี รวมถึงวัตถุพยานที่สำคัญในคดีต่างๆ หลายคนก็คงจะเริ่มคุ้นชินกับพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ขึ้นมาบ้างใช่ไหมคะ
งั้นเราลองมาดูประวัติความเป็นมาของพิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจแห่งนี้กัน
ถ้าพร้อมที่จะไปเรียนรู้ เรื่องราวต่างๆที่น่าสนใจในพิพิธภัณฑ์ศิริราชพิมุขสถานแห่งนี้แล้ว
ก็ออกเดินทางได้เลยยยยยยยยยยยยยยยยยย
งั้นเราลองมาดูประวัติความเป็นมาของพิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจแห่งนี้กัน
พิพิธภัณฑ์ศิริราชพิมุขสถาน เป็นพิพิธภัณฑ์ภายในโรงพยาบาลศิริราช ที่เริ่มต้นมาจากการเก็บ และจัดแสดงสิ่งของซึ่งเป็นสิ่งเรียนรู้ทางการแพทย์ในแต่ละภาควิชา โดยในปี พ.ศ. 2525 มีพิพิธภัณฑ์ที่เปิดรวมภายโรงพยาบาลถึง 13 แห่ง แต่เมื่อระยะเวลาผ่านไปพิพิธภัณฑ์ถูกลดลงให้เหลือเพียง 6 แห่ง ที่สามารถเปิดให้ประชาชนทั่วไปได้มีโอกาสเข้าเยี่ยมชม
เมื่อคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลได้รับมอบพื้นที่บางส่วนของสถานีรถไฟธนบุรี จำนวน 33 ไร่ จากการรถไฟแห่งประเทศไทย และเพื่อให้วงการแพทย์และสาธารณสุขของประเทศมีการพัฒนาทั้งด้านวิชาการการวิจัย การศึกษา และการบริการ จึงมีการเสนอโครงการพัฒนาศิริราชสู่สถาบันการแพทย์ชั้นเลิศในเอเชียอาคเนย์ต่อรัฐบาล และวางแผนการดำเนินงาน ซึ่งประกอบด้วยโครงการย่อย 7 โครงการ ซึ่งพิพิธภัณฑ์เป็นหนึ่งในโครงการย่อยเหล่านั้น พร้อมทั้งได้มีการ แต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อพัฒนาศิริราชสู่สถาบันการแพทย์ชั้นเลิศในเอเชียอาคเนย์ ในส่วนของพิพิธภัณฑ์การแพทย์ศิริราชขึ้น เพื่อให้รับผิดชอบดูแลพิพิธภัณฑ์ต่าง ๆ ในศิริราช รวมทั้งมีการจัดตั้งคณะทำงานเพื่อปฏิบัติหน้าที่รวบรวมเก็บข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับพิพิธภัณฑ์ ภาควิชาและหน่วยงานต่าง ๆ ภายในโรงพยาบาลศิริราช เพื่อเก็บเป็นข้อมูลเบื้องต้นสำหรับโครงการ รวมเป็น “พิพิธภัณฑ์การแพทย์ศิริราช” หรือ “พิพิธภัณฑ์ศิริราชพิมุขสถาน” ในปัจจุบัน
พิพิธภัณฑ์ศิริราชพิมุขสถาน ตั้งอยู่ภายในบริเวณโรงพยาบาลศิริราช ถือเป็นแหล่งเรียนรู้แห่งใหม่ในพื้นที่สถาบันการแพทย์สยามินทราธิราช เพื่อเปิดประสบการณ์ การเรียนรู้ ทั้งด้านประวัติศาสตร์การแพทย์, การก่อตั้งโรงพยาบาลศิริราช, โรงเรียนแพทย์แห่งแรก, พัฒนาวิทยาการแพทย์ของโรงพยาบาลศิริราช ทั้งแผนปัจจุบันและแผนไทย ซึ่งภายในพิพิธภัณฑ์ฯ ได้รับการออกแบบอย่างสวยงาม ทันสมัย ใช้ระบบคอมพิวเตอร์ ควบคุมทั้งสื่อนำเสนอและระบบการเข้าชม สามารถรองรับการเยี่ยมชมได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งแบบหมู่คณะคราวละหลายร้อยคน หรือผู้สนใจที่มาแบบส่วนตัวก็ได้เช่นกัน
โดยวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งโครงการพิพิธภัณฑ์การแพทย์ศิริราชแห่งนี้คือ
(๑) เพื่อรวบรวมสิ่งแสดง วิเคราะห์ จำแนกประเภท ประเมินคุณค่า ทำทะเบียน และเก็บรักษาสิ่งแสดงจาก ทุกหน่วยงานของคณะฯอย่างเป็นระบบ
(๒) เพื่อจัดแสดงประวัติและวิวัฒนาการของการแพทย์ของประเทศไทยและของคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
(๓) เพื่อจัดแสดงสิ่งแสดงทางการแพทย์ และพัฒนาให้เป็นแหล่
งเผยแพร่ความรู้ทางด้านการแพทย์และการ
สาธารณสุขแก่ประชาชนทั่วไปทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ
(๔) เพื่อเป็นสถานบริการการศึกษานอกระบบสำหรับนักเรียน นิสิตนักศึกษา และประชาชน
(๕) เพื่อเป็นศูนย์การวิจัยและพัฒนาการจัดทำสิ่งแสดงทางการแพทย์และการสาธารณสุข
(๖) เพื่อดำเนินกิจกรรมหรือธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับกิจการพิพิธภัณฑ์การแพทย์
(๗) เพื่อร่วมมือกับองค์กรอื่นทั้งในและต่างประเทศเพื่อประโยชน์ในด้านการพัฒนาพิพิธภัณฑ์การแพทย์
เมื่อคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลได้รับมอบพื้นที่บางส่วนของสถานีรถไฟธนบุรี จำนวน 33 ไร่ จากการรถไฟแห่งประเทศไทย และเพื่อให้วงการแพทย์และสาธารณสุขของประเทศมีการพัฒนาทั้งด้านวิชาการการวิจัย การศึกษา และการบริการ จึงมีการเสนอโครงการพัฒนาศิริราชสู่สถาบันการแพทย์ชั้นเลิศในเอเชียอาคเนย์ต่อรัฐบาล และวางแผนการดำเนินงาน ซึ่งประกอบด้วยโครงการย่อย 7 โครงการ ซึ่งพิพิธภัณฑ์เป็นหนึ่งในโครงการย่อยเหล่านั้น พร้อมทั้งได้มีการ แต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อพัฒนาศิริราชสู่สถาบันการแพทย์ชั้นเลิศในเอเชียอาคเนย์ ในส่วนของพิพิธภัณฑ์การแพทย์ศิริราชขึ้น เพื่อให้รับผิดชอบดูแลพิพิธภัณฑ์ต่าง ๆ ในศิริราช รวมทั้งมีการจัดตั้งคณะทำงานเพื่อปฏิบัติหน้าที่รวบรวมเก็บข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับพิพิธภัณฑ์ ภาควิชาและหน่วยงานต่าง ๆ ภายในโรงพยาบาลศิริราช เพื่อเก็บเป็นข้อมูลเบื้องต้นสำหรับโครงการ รวมเป็น “พิพิธภัณฑ์การแพทย์ศิริราช” หรือ “พิพิธภัณฑ์ศิริราชพิมุขสถาน” ในปัจจุบัน
พิพิธภัณฑ์ศิริราชพิมุขสถาน ตั้งอยู่ภายในบริเวณโรงพยาบาลศิริราช ถือเป็นแหล่งเรียนรู้แห่งใหม่ในพื้นที่สถาบันการแพทย์สยามินทราธิราช เพื่อเปิดประสบการณ์ การเรียนรู้ ทั้งด้านประวัติศาสตร์การแพทย์, การก่อตั้งโรงพยาบาลศิริราช, โรงเรียนแพทย์แห่งแรก, พัฒนาวิทยาการแพทย์ของโรงพยาบาลศิริราช ทั้งแผนปัจจุบันและแผนไทย ซึ่งภายในพิพิธภัณฑ์ฯ ได้รับการออกแบบอย่างสวยงาม ทันสมัย ใช้ระบบคอมพิวเตอร์ ควบคุมทั้งสื่อนำเสนอและระบบการเข้าชม สามารถรองรับการเยี่ยมชมได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งแบบหมู่คณะคราวละหลายร้อยคน หรือผู้สนใจที่มาแบบส่วนตัวก็ได้เช่นกัน
ซึ่งพิพิธภัณฑ์ศิริราชพิมุขสถานจะแบ่งออกเป็น 6 พิพิธภัณฑ์ที่เปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าไปชม
ในที่นี้จะขอแนะนำไปที่ตึกอดุลยเดชวิกรม
ซึ่งภายในตึกอดุลยเดชวิกรมจะมีพิพิธภัณฑ์ดังนี้
1.พิพิธภัณฑ์พยาธิวิทยาเอลลิส จัดแสดงเกี่ยวกับประวัติพยาธิวิทยาในประเทศไทย ห้องจำลอง
การปฏิบัติงานทางพยาธิวิทยาที่ตึกเสาวภาคย์ในอดีตของโรงพยาบาลศิริราช แสดงระบบการทำงานของหัวใจปกติและโรคหัวใจ
2.พิพิธภัณฑ์นิติเวชศาสตร์ สงกรานต์ นิยมเสน เริ่มก่อตั้งในสมัยของ ศ.นพ.สงกรานต์ นิยมเสน ซึ่งท่านได้เป็นผู้ริเริ่มงานด้านนิติเวชศาสตร์ของศิริราช และดำรงตำแหน่งหัวหน้าภาควิชานิติเวชศาสตร์ในขณะนั้น จัดแสดงเกี่ยวกับนิติพยาธิ ชิ้นส่วนอวัยวะต่างๆของมนุษย์ ที่ตายด้วยโรคตามธรรมชาติ และตายโดยผิดธรรมชาติ และยาเสพติดชนิดต่างๆ วัตถุพยานจากคดีต่างๆ เช่น คดีฆาตกรรม ฆ่าตัวตาย อุบัติเหตุ ฯลฯ ที่มีการจัดแสดงกะโหลกศรีษะจำนวนมากที่ได้จากการทดลองยิงเพื่อการศึกษาทิศทางบาดแผลในระยะต่างๆ รวมทั้งเครื่องมือที่ใช้ในการชันสูตรพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่8 และมีการจัดแสดงศพต่างๆ เช่น ศพ ” ซีอุย ” ศพไม่เน่า เสื้อผ้าในวันเกิดเหตุของคดีนวลฉวี ฯลฯ
3.พิพิธภัณฑ์ ประวัติการแพทย์ไทย อวย เกตุ อดีตหัวหน้าแผนกสรีรวิทยาและเป็นอดีตหัวหน้าภาควิชาเภสัชวิทยาเป็นผู้รวบรวมเรื่องราวการแพทย์ของไทย ได้จัดสร้างพิพิธภัณฑ์เสร็จในปี พ.ศ. 2522 โดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เสด็จมาทรงเปิดเมื่อ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2522 สิ่งจัดแสดงที่สำคัญได้แก่ ประวัติและวิวัฒนาการการแพทย์ของไทย ร้านขายยาไทย พร้อมตัวอย่างสมุนไพรชนิดต่างๆ อุปกรณ์ในการปรุงยาไทย การคลอดและการอยู่ไฟ เฉลวหรือไม้ไผ่สานเป็นรูปดาวที่ใช้ปักบนหม้อต้มยา กระบองอาญาสิทธิ์ ที่แพทย์หลวงใช้ถือไปเก็บสมุนไพรได้ทุกที่ การนวดและอุปกรณ์ที่ใช้นวดและการรักษาโรคเบื้องต้นด้วยท่าฤาษีดัดตน การรักษาโรคด้วยไสยศาสตร์ ฯลฯ ขณะนี้สิ่งแสดงดังกล่าวจำนวนหนึ่งได้ย้ายมาจัดแสดงร่วมภายในพื้นที่ของพิพิธภัณฑ์นิติเวชศาสตร์เป็นการชั่วคราว
4.พิพิธภัณฑ์ปรสิตวิทยา ก่อตั้งโดย ศ.นพ. วิจิตร ไชยพร ในปี พ.ศ. 2513 โดยการเก็บรวบรวมตัวอย่างสิ่งแสดงจากผู้ป่วย จากการตรวจศพ ฯลฯ ไว้ใช้ในการเรียนการสอนนักศึกษาหลักสูตรต่างๆ โดยเฉพาะนักศึกษาแพทย์ แต่ในภายหลังมีการจัดแสดงแบ่งเป็นหมวดหมู่ และได้เปิดให้บุคคลทั่วไปได้เข้าชมด้วย เพื่อเป็นแหล่งความรู้ที่ต้องการ ให้คนดูตระหนักถึงอันตราย และโทษของการบริโภคแบบผิดๆ
2.พิพิธภัณฑ์นิติเวชศาสตร์ สงกรานต์ นิยมเสน เริ่มก่อตั้งในสมัยของ ศ.นพ.สงกรานต์ นิยมเสน ซึ่งท่านได้เป็นผู้ริเริ่มงานด้านนิติเวชศาสตร์ของศิริราช และดำรงตำแหน่งหัวหน้าภาควิชานิติเวชศาสตร์ในขณะนั้น จัดแสดงเกี่ยวกับนิติพยาธิ ชิ้นส่วนอวัยวะต่างๆของมนุษย์ ที่ตายด้วยโรคตามธรรมชาติ และตายโดยผิดธรรมชาติ และยาเสพติดชนิดต่างๆ วัตถุพยานจากคดีต่างๆ เช่น คดีฆาตกรรม ฆ่าตัวตาย อุบัติเหตุ ฯลฯ ที่มีการจัดแสดงกะโหลกศรีษะจำนวนมากที่ได้จากการทดลองยิงเพื่อการศึกษาทิศทางบาดแผลในระยะต่างๆ รวมทั้งเครื่องมือที่ใช้ในการชันสูตรพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่8 และมีการจัดแสดงศพต่างๆ เช่น ศพ ” ซีอุย ” ศพไม่เน่า เสื้อผ้าในวันเกิดเหตุของคดีนวลฉวี ฯลฯ
3.พิพิธภัณฑ์ ประวัติการแพทย์ไทย อวย เกตุ อดีตหัวหน้าแผนกสรีรวิทยาและเป็นอดีตหัวหน้าภาควิชาเภสัชวิทยาเป็นผู้รวบรวมเรื่องราวการแพทย์ของไทย ได้จัดสร้างพิพิธภัณฑ์เสร็จในปี พ.ศ. 2522 โดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เสด็จมาทรงเปิดเมื่อ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2522 สิ่งจัดแสดงที่สำคัญได้แก่ ประวัติและวิวัฒนาการการแพทย์ของไทย ร้านขายยาไทย พร้อมตัวอย่างสมุนไพรชนิดต่างๆ อุปกรณ์ในการปรุงยาไทย การคลอดและการอยู่ไฟ เฉลวหรือไม้ไผ่สานเป็นรูปดาวที่ใช้ปักบนหม้อต้มยา กระบองอาญาสิทธิ์ ที่แพทย์หลวงใช้ถือไปเก็บสมุนไพรได้ทุกที่ การนวดและอุปกรณ์ที่ใช้นวดและการรักษาโรคเบื้องต้นด้วยท่าฤาษีดัดตน การรักษาโรคด้วยไสยศาสตร์ ฯลฯ ขณะนี้สิ่งแสดงดังกล่าวจำนวนหนึ่งได้ย้ายมาจัดแสดงร่วมภายในพื้นที่ของพิพิธภัณฑ์นิติเวชศาสตร์เป็นการชั่วคราว
4.พิพิธภัณฑ์ปรสิตวิทยา ก่อตั้งโดย ศ.นพ. วิจิตร ไชยพร ในปี พ.ศ. 2513 โดยการเก็บรวบรวมตัวอย่างสิ่งแสดงจากผู้ป่วย จากการตรวจศพ ฯลฯ ไว้ใช้ในการเรียนการสอนนักศึกษาหลักสูตรต่างๆ โดยเฉพาะนักศึกษาแพทย์ แต่ในภายหลังมีการจัดแสดงแบ่งเป็นหมวดหมู่ และได้เปิดให้บุคคลทั่วไปได้เข้าชมด้วย เพื่อเป็นแหล่งความรู้ที่ต้องการ ให้คนดูตระหนักถึงอันตราย และโทษของการบริโภคแบบผิดๆ
โดยวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งโครงการพิพิธภัณฑ์การแพทย์ศิริราชแห่งนี้คือ
(๑) เพื่อรวบรวมสิ่งแสดง วิเคราะห์ จำแนกประเภท ประเมินคุณค่า ทำทะเบียน และเก็บรักษาสิ่งแสดงจาก ทุกหน่วยงานของคณะฯอย่างเป็นระบบ
(๒) เพื่อจัดแสดงประวัติและวิวัฒนาการของการแพทย์ของประเทศไทยและของคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
(๓) เพื่อจัดแสดงสิ่งแสดงทางการแพทย์ และพัฒนาให้เป็นแหล่
งเผยแพร่ความรู้ทางด้านการแพทย์และการ
สาธารณสุขแก่ประชาชนทั่วไปทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ
(๔) เพื่อเป็นสถานบริการการศึกษานอกระบบสำหรับนักเรียน นิสิตนักศึกษา และประชาชน
(๕) เพื่อเป็นศูนย์การวิจัยและพัฒนาการจัดทำสิ่งแสดงทางการแพทย์และการสาธารณสุข
(๖) เพื่อดำเนินกิจกรรมหรือธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับกิจการพิพิธภัณฑ์การแพทย์
(๗) เพื่อร่วมมือกับองค์กรอื่นทั้งในและต่างประเทศเพื่อประโยชน์ในด้านการพัฒนาพิพิธภัณฑ์การแพทย์
หลังจากดูข้อมูลมาพอสมควรแล้ว อันดับต่อไปคือ การไปดูทุกอย่างที่กล่าวมานี้ด้วยตัวคุณเอง
เพื่อให้คุณได้เรียนรู้ด้วยประสบการณ์ตรงๆๆๆๆๆๆ ดังนั้น สิ่งที่จะนำเสนอ ต่อไปคือ
วิธีการเดินทาง
รถประจำทางสายผ่านหน้าโรงพยาบาลศิริราช ได้แก่ สาย 19, 57, 81, 146, 149, และ 157
เรือด่วนเจ้าพระยาระบุลงท่าพรานนก
เรือข้ามฟากท่าพระจันทร์-วังหลัง, ท่าช้าง-วังหลัง
อ้อ พิพิธภัณฑ์นี้ ไม่ได้เปิดทุกวันนะคะ จะไปวันไหน ต้องดูก่อนนะ
เวลาเปิด-ปิด : เปิดวันจันทร์, พุธ– อาทิตย์ (หยุดวันอังคารและวันนักขัตฤกษ์) เวลา 10.00–17.00 น.
ถ้าพร้อมที่จะไปเรียนรู้ เรื่องราวต่างๆที่น่าสนใจในพิพิธภัณฑ์ศิริราชพิมุขสถานแห่งนี้แล้ว
ก็ออกเดินทางได้เลยยยยยยยยยยยยยยยยยย
ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก
http://www.si.mahidol.ac.th/museums/th/webboard/webboarddetail.asp?q_id=4
http://www.m-culture.in.th/album/167016/%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%A0%E0%B8%B1%E0%B8%93%E0%B8%91%E0%B9%8C%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%81%E0%B8%9E%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B9%8C%E0%B8%A8%E0%B8%B4%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A