บลูทูธ(Bluetooth) คำๆนี้ใครหลายคนคงได้ยินมาตั้งแต่เริ่มใช้โทรศัพท์มือถือ เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้ผู้ใช้สะดวกสบาย ใช้งานง่าย ครอบคลุมการใช้งานหลายด้าน ที่สำคัญ เทคโนโลยีนี้ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ไม่ต้องเชื่อมต่อกับระบบอินเตอร์เน็ตอีกด้วย
ความเป็นมาของเจ้า "ฟันสีฟ้า" (Bluetooth)
คำว่า Bluetooth หรือ ฟันสีฟ้า ความจริงแล้วเป็นนามของกษัตริย์ประเทศเดนมาร์ก ที่มีชื่อว่า "Harald Bluetooth" (ภาษาเดนมาร์ก Harald BlÅtand) ในช่วงปี ค.ศ. 940-981 หรือประมาณ 1,000 กว่าปีก่อนหน้า กษัตริย์องค์นี้ได้ปกครองประเทศเดนมาร์กและนอร์เวย์ในยุคของ ไวกิ้งค์ และต้องการรวมประเทศให้เป็นหนึ่งเดียว นอกจากนั้น ยังทรงเป็นผู้นำเอาศาสนาคริสต์เข้าสู่ประเทศเดนมาร์กอีกด้วย
กษัตริย์ Harald Bluetooth ปี ค.ศ. 940-981
และเพื่อเป็นการรำลึกถึงกษัตริย์ Bluetooth ผู้ปกครองประเทศกลุ่มสแกนดิเนเวีย ซึ่งในปัจจุบันเป็น กลุ่มผู้นำในด้านการผลิตโทรศัพท์มือถือป้อนสู่ตลาดโลก และระบบ Bluetooth นี้ ก็ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อใช้กับโทรศัพท์มือถือ และเริ่มต้นจากประเทศในแถบนี้ด้วยเช่นกัน
กำเนิด Bluetooth?
ปี 1994 บริษัท อีริคสัน โมบาย คอมมูนิเคชั่น เริ่มต้นที่จะค้นคว้าวิจัยความเป็นไปได้ในการนำคลื่นสัญญาณวิทยุ มาใช้ระหว่างโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์ต่างๆ และเป็นผู้นำชื่อ Bluetooth มาใช้ปี 1998 กลุ่มผู้พัฒนาวิจัยระบบ Bluetooth ได้ถูกก่อตั้งขึ้น โดยเกิดจากการรวมตัวของบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Ericsson, Nokia, IBM, Toshiba และ Intel ในกลุ่มที่ใช้ชื่อว่า Special Interest Group (SIG) ซึ่งในกลุ่มจะประกอบด้วย กลุ่มผู้นำทางด้านโทรศัพท์มือถือ, คอมพิวเตอร์ ฯลฯ ซึ่งกลุ่มเหล่านี้ได้ประเมินว่า ภายในปี 2002 ในอุปกรณ์การสื่อสาร, เครื่องใช้, คอมพิวเตอร์ จะถูกติดตั้ง Bluetooth ที่จะใช้เชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์ต่างๆ อย่างแพร่หลาย
Bluetooth คืออะไร?
BLUETOOTH คือ ระบบสื่อสารของอุปกรณ์อิเล็คโทรนิคแบบสองทาง ด้วยคลื่นวิทยุระยะสั้น (Short-Range Radio Links) โดยปราศจากการใช้สายเคเบิ้ล หรือ สายสัญญาณเชื่อมต่อ และไม่จำเป็นจะต้องใช้การเดินทางแบบเส้นตรงเหมือนกับอินฟราเรด ซึ่งถือว่าเพิ่มความสะดวกมากกว่าการเชื่อมต่อแบบอินฟราเรด ที่ใช้ในการเชื่อมต่อระหว่างโทรศัพท์มือถือ กับอุปกรณ์ ในโทรศัพท์เคลื่อนที่รุ่นก่อนๆ และในการวิจัย ไม่ได้มุ่งเฉพาะการส่งข้อมูลเพียงอย่างเดียว แต่ยังศึกษาถึงการส่งข้อมูลที่เป็นเสียง เพื่อใช้สำหรับ Headset บนโทรศัพท์มือถือด้วยโดยปกติการเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆเข้าด้วยกันเพื่อใช้งานหรือส่งข้อมูลนั้น จำเป็นที่จะต้องใช้สายเคเบิ้ลเป็นตัวเชื่อมต่อ(Serial และ USB) ซึ่งสร้างความไม่สะดวกให้กับผู้ใช้งานในหลายด้าน ทั้งการพกพา การเคลื่อนย้าย และการใช้สอย
แต่เมื่อมีการ Bluetooth มาใช้ก็ช่วยให้การโอนถ่ายข้อมูลระหว่างโทรศัพท์กับโทรศัพท์ โทรศัพท์กับคอมพิวเตอร์พกพา(laptop) หรือระหว่างคอมพิวเตอร์พกพา(laptop)ด้วยกันเอง ก็สามารถทำได้ง่ายและรวดเร็ว โดยสามารถส่งข้อมูลได้หลากหลายทั้งรูปภาพ เสียง รวมถึงไฟล์ข้อมูลแบบต่างๆ
นอกจากนี้ Bluetooth สามารถช่วยให้การใช้โทรศัพท์และการใช้คอมพิวเตอร์พกพา(laptop)สะดวกสบายมากขึ้น คือการนำ Bluetooth มาใช้กับอุปกรณ์ช่วยต่างๆ ทั้งชุดหูฟัง พริ๊นเตอร์ คีย์บอร์ด เม้าท์ หรือแม้แต่ลำโพง ที่ไม่จำเป็นต้องต่อสายเข้ากับตัวเครื่องก็สามารถใช้งานได้ จากประโยชน์ต่างๆ จะเห็นได้ว่า เทคโนโลยี Bluetooth สามารถนำมาใช้ให้เข้ากับชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี และยังเพิ่มความสะดวกในการใช้งานกับอุปกรณ์ต่างๆ
และนอกเหนือจากที่กล่าวไป Bluetooth ยังถูกพัฒนามาใช้งานกับอุปกรณ์อื่นๆ อีกด้วย ทั้งเครื่องเล่นซีดี รีโมทวิทยุ แม้กระทั่งในรถยนต์ ซึ่งปัจจุบันได้มีการนำเทคโนโลยี Bluetooth ไปใช้กันแล้ว ทั้งชุด Handsfree, หรือ รีโมทเปิด-ปิดประตู หรือระบบ Keyless ซึ่งเราไม่ต้องกดปุ่มที่กุญแจอีกต่อไป เพียงแค่อยู่ในระยะการทำงาน ประตูก็จะเปิดล็อคให้ทันที ส่วนเวลาลงรถก็สามารถเดินตัวปลิวออกจากรถได้เลย เมื่อการเชื่อมต่อระหว่างตัวรถกับกุญแจขาดจากกัน ก็จะล็อคให้เองอัตโนมัติ (รถบางรุ่นเริ่มมีใช้กันแล้ว Mercedes-Benz SLR) และเชื่อว่าในอนาคต บลูทูธยังต้องมีการพัฒนาต่อไปอีกเรื่อยๆ เพื่อช่วยตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค
ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก http://www.siamphone.com/news/bluetooth/page.htm
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น